ข่าวกีฬา ณ นาทีนี้ แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด
ข่าวกีฬา ต่างส่งเสียงขับไล่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กันอย่างหนัก จากสกอร์ 5-0 ที่พ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล เมื่อสุดสัปดาห์ ส่งผลให้ ปีศาจแดง เข้าขั้นระส่ำระสายผิดไปจากที่คาดคิดกันเอาไว้ว่า โซลชา คือคนที่ใช่ของสโมสร
นับตั้งแต่ได้กุมบังเหียนถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2018 นายใหญ่ชาวนอรเวย์ยังไม่อาจพาทีมคว้าแชมป์รายการใดๆได้เลย และมันทำให้แฟนบอลไม่พอใจในผลงานของเขามากขึ้นทุกที
จากเก้านัดหลังในทุกรายการ ผีแดง คว้าชัยได้แค่สามนัดเท่านั้น กระทั่งมาโดน ลิเวอร์พูล หยามศักดิ์ศรีถึงถิ่นจนทำให้เก้าอี้ของ โซลชา ร้อนฉ่า
แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังให้การสนับสนุนอดีตกองหน้า แต่เชื่อกันว่า อันโตนิโอ คอนเต้ และ ซีเนดีน ซีดาน อดีตนายใหญ่ทีม อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด เป็นสองชื่อที่ โรงละครแห่งความฝัน ให้ความสนใจมากที่สุด
แต่ใครกันเล่าที่เหมาะจะได้รับภาระแทนที่ โซลชา เรามาหาคำตอบกัน…
– ประสบการณ์
เท่านั้นไม่พอ เขายังเคยทีมชาติอิตาลีอีกสองปีด้วยกัน ก่อนมุ่งหน้ามาประสบความสำเร็จใน พรีเมียร์ลีก กับ เชลซี แล้วจึงกลับไปสร้างชื่อใน เซเรียอา อีกรอบกับ อินเตอร์ มิลาน
ขณะเดียวกัน ซีดาน เคยเป็นนายใหญ่ทีม เรอัล มาดริด สองวาระโดยก่อนหน้านั้นเขาเริ่มงานจากการคุมทีมชุดบีของ ราชันชุดขาว หรือที่เรียกว่า เรอัล มาดริด กาสติญ่า มาก่อน
– ถ้วยแชมป์
ถึงกระนั้น คอนเต้ ก็ประสบความสำเร็จมากมายโดยได้แชมป์ เซเรียบี หนึ่งครั้ง และแชมป์ เซเรียอา สี่ครั้ง ตลอดจนแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมป์ เอฟเอคัพ สมัยหากินอยู่ในลีกอิงลิช
แต่ไม่ว่ายังไง ทั้งคู่ก็มีดีกรีเหนือกว่า โซลชา ทั้งนั้นโดยกุนซือชาวนอรเวย์เคยพาทีม โมลด์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในบ้านเกิดได้สองสมัยก่อนย้ายมาคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด
– จุดสูงสุด
สำหรับ ซีดาน ต้องเป็นซีซั่น 2016/17 ซึ่งอดีตดาวดังทีม ยูเวนตุส ได้ทั้งแชมป์ ลา ลีกา และแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นแรกของเขาซึ่งชี้ให้เห็นว่าเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ปี 1998 มีคุณสมบัติเป็นยอดกุนซือไม่ด้อยไปกว่าใคร
– จุดต่ำสุด
เท่ากับว่า สิงห์บลูส์ ต้องพะบู๊ในถ้วย ยูโรปาลีก ทั้งๆที่มีขุมกำลังที่ฉกาจฉกรรจ์ และมันส่งผลทำให้เขาโดนไล่ออก
ฝ่าย ซีดาน ไม่ถึงกับมีจุดตกต่ำในอาชีพโค้ช แถมเป็นเขาเองที่ตัดสินใจสละเก้าอี้อย่างน่าช็อคต่อการโบกมือลา ราชันชุดขาว และทำช็อคอีกรอบเมื่อตัดสินใจกลับมาคุมทีมอีกหน
– ระบบการเล่น
ซีดาน เป็นกุนซือที่เปิดโอกาสให้ลูกทีมมีอิสระในการเล่นมากกว่าเนื่องจากเขาเองเคยเป็นพ่อค้าแข้งในสไตล์นี้มาก่อนจึงปล่อยให้นักเตะรับผิดชอบแท็คติกของตัวเองในสังเวียนแข้ง
แต่เท่าที่เห็น ซิซู มักปรับระบบการเล่นจาก 4-4-2 ไปเป็น 4-3-3 บ่อยครั้ง และเน้นเกมรุกมากกว่าเกมรับ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงท้ายเกมก็ตาม
ขอบคุณข่าว : https://www.siamsport.co.th/